วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

จุฬา เข้าชื่อบี้ศอฉ.-ปล่อยสุธาชัย มธ.ล่าชื่อ ประณาม ชี้คุกคาม


วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7123 ข่าวสดรายวัน
จุฬาเข้าชื่อบี้ศอฉ.-ปล่อยสุธาชัย


มธ.ล่า ชื่อ ประณาม ชี้คุกคาม

คณาจารย์จุฬาฯ เคลื่อนไหวอีก ชี้มาร์คปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ เข้าชื่อถึงอธิการบดีบี้ศอฉ.ปล่อยตัว"สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ"หลังถูกนำไปกักขังในค่ายทหาร ลิดรอนเสรีภาพส่วนบุคคล-คุกคามทางวิชาการ จนต้องอดข้าวประท้วงมาเป็นวันที่ 3 เผยล่าสุดยื่นต่อศาลขอควบคุมตัวต่ออีก 7 วัน โดยไม่ยอมปล่อยให้มาร่วมงานศพพ่อภรรยา ทนายเตรียมยื่นอุทธรณ์วันนี้ ขณะที่ประชาคมธรรมศาสตร์ก็ล่ารายชื่อนักศึกษาออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาล จาตุรนต์อัดอภิสิทธิ์ใช้คารมโวหารปกป้องให้ตัวเองพ้นผิดไปวันๆ เจ้าตัวเล็งให้ศอฉ.นัดแจงทูตต่างประเทศอีก หลังรัฐบาลชี้แจงไปแล้วก่อหน้านี้

- มาร์คแจงมาตรการช่วยเหลือ

เมื่อ เวลา 09.00 น. วันที่ 30 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ว่า การยกเลิกประกาศเคอร์ฟิวคืนแรกเมื่อคืนวันที่ 29 พ.ค.ถือว่าผ่านไปด้วยความเรียบร้อย แต่ยังให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา เมื่อมีความเหมาะสม ก็จะผ่อนคลายข้อกำหนดต่างๆ หรือยกเลิกพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2551 ก็ดำเนินการตามเกณฑ์ปกติ ส่วนการฟื้นฟูชุมชนต่างๆ ครม.ได้มอบให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ท้องถิ่น กทม. ดูแลพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เช่น ชุมชนบ่อนไก่ ดินแดง ทั้งฟื้นฟูสาธารณูปโภค ฟื้นฟูจิตใจประชาชน

นาย อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ในวันที่ 19 พ.ค. ทั้งสยามสแควร์ เซ็น ทรัลเวิลด์ เซ็นเตอร์วัน รัฐบาลเปิดให้มาขึ้นทะเบียนวันที่ 31 พ.ค.เป็นวันสุดท้าย เพื่อขอรับทุนช่วยเหลือเบื้องต้น 5 หมื่นบาท และให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้เงินกู้ปลอดดอกเบี้ย 3 แสนบาท เป็นเวลา 1 ปี และมีวงเงินอีก 7 แสนบาท รวมเป็นเงิน 1 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 3 หรือไม่เกินร้อยละ 3 เป็นการช่วยเรื่องทุนประกอบการต่อไป

นายกฯ กล่าวว่านอกจากนี้ยังจัดหาสถานที่ช่วยผู้ประกอบการเพลิงไหม้ โดยสยามสแควร์ จุฬาฯในฐานะเจ้าของสถานที่ ได้จัดสถานที่ชั่วคราวให้ และจะสร้างอาคารกึ่งชั่วคราวกึ่งถาวรให้ในสยามสแควร์ รัฐบาลจัดงบ 90 ล้านบาท ให้โดยไม่คิดค่าเช่าร้าน คาดว่าจะใช้เวลา 1 ปีซ่อมแซมฟื้นฟูพื้นที่เสียหาย ส่วนผู้ประกอบการในเซ็นทรัลเวิลด์ จะไปขายได้ที่สาขาอื่นที่เสนอมา คือเซ็นทรัล ลาดพร้าว จะมีการเจรจากับการรถไฟฯ เพราะมีเรื่องสัญญาเช่าอยู่ แต่หากไม่เรียบร้อย รัฐบาลจะหาพื้นที่ของรัฐ ที่ของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จัดให้ค้าขายชั่วคราว 1 ปี โดยรัฐบาลออกค่าใช้จ่ายให้ จะรวมกับผู้ค้าเซ็นเตอร์วันเช่นกัน

- ฉายเทปแจงทูต-ทหารยิงขึ้นฟ้า

นายกฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าจะเดินหน้าแผนปรองดองอย่างเต็มที่ โดยภายในสัปดาห์หน้าจะเร่งรัดการแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเข้ามาดูแลในเรื่อง ของเหตุการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้น ทั้งปัญหาปมการเมือง รวมถึงการจัดทำสมัชชารับฟังความคิดเห็น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำหรือปฏิรูปประเทศ ซึ่งขณะนี้โครงการเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ดังนั้น ขอเชิญชวนทุกองค์กรเข้ามาช่วยกัน เพื่อรวมน้ำใจของประชาชนให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียว เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์อย่างแท้จริง

ผู้สื่อ ข่าวรายงานว่า จากนั้น ได้นำเทปการชี้แจงของนายอภิสิทธิ์ ต่อเอกอัครราชทูต 47 ประเทศ อุปทูต 25 ประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ 16 ประเทศ และองค์การการค้าระหว่างประเทศ 18 ประเทศ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา มาแพร่ภาพ โดยนายกฯระบุว่า มาตรการกระชับพื้นที่ รัฐบาลทำภายใต้แนวคิดที่เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด การก่อเหตุต่างๆ มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า เจ้าหน้าที่ทหารใช้ความอดทนอดกลั้นมาตลอด การใช้อาวุธจะกระทำต่อเมื่อยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ ป้องกันตัวเอง และยิงผู้ติดอาวุธเมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจน ทั้งนี้ ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ทูต ชาวต่างชาติในประเทศไทย เรามีมาตรการจะดูแลอย่างเต็มที่ อยากเชิญชวนคณะทูตมีส่วนร่วมฟื้นฟูประเทศไทย ความมีน้ำใจของคนไทยยังมีอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง และมีความเป็นไปได้ที่จะเลือกตั้งก่อนหมดวาระรัฐบาล (อ่านรายละเอียดน.3)

- ศอฉ.ขอขังต่อ"สุธาชัย"อีก 7 วัน

สำหรับ ความคืบหน้ากรณีอาจารย์จุฬาฯ อดอาหารประท้วงนั้น วันเดียวกัน นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของนายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งถูกศอฉ. ควบคุมตัวอยู่ที่ค่ายอดิศร จ.สระบุรี กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากภรรยานายสุธาชัย ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 30 พ.ค. ว่า ศอฉ.ไม่อนุญาตให้นายสุธาชัย เดินทางมาร่วมงานศพบิดาของภรรยา นอกจากนั้นยังได้รับแจ้งด้วยว่า ศาลอนุมัติตามที่ ศอฉ.เสนอขอควบคุมตัวนายสุธาชัย และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เพิ่มอีก 7 วัน ดังนั้นจึงได้มอบให้ตนยื่นคำคัดค้านการควบคุมตัวครั้งนี้และร้องขอความเป็น ธรรมต่อศาลอาญาโดยด่วน ซึ่งคาดว่าในวันที่ 31 พ.ค.นี้ ตนจะรีบดำเนินการยื่นคัดค้านต่อศาลในทันที เพราะการเสนอขอควบคุมตัวเพิ่มเติมอีก 7 วันนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจาก 1.การคุมตัวตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ได้สอบสวนเพิ่มเติม เพียงแต่นำตัวไปขังไว้เฉยๆ 2.กฎหมายกำหนดให้การควบคุมตัวกระทำเสมือนเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกักบริเวณ แต่การควบคุมตัวของ ศอฉ.ทั้งตัดการติดต่อ ไม่ให้เข้าเยี่ยม ไม่ให้อ่านหนังสือพิมพ์ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ยิ่งกว่านักโทษเรือนจำเสียอีก และ 3.เป็นการควบคุมตัวโดยที่ยังไม่มีการตั้งข้อหาใดในการกักตัวไว้ถือว่าไม่ เข้าข้อกฎหมายที่ให้อำนาจควบคุมตัว

"ขณะนี้ ภรรยาของนายสุธาชัย กำลังยุ่งอยู่กับการจัดงานศพของบิดา ยังไม่ได้สามารถดำเนินการอะไรได้ แต่มีความกังวลอย่างมาก เพราะนายสุธาชัย มีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน หากถูกกังขังและอดอาหารประท้วงอาจมีอันตรายได้ เท่าที่ผมทราบขณะนี้นายสุธาชัยยังคงอดอาหารประท้วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะยังไม่ได้รับสิทธิ์ให้อ่านหนังสือ ตำราวิชาการ และติดต่อโลกภายนอก" นายกฤษฎางค์ กล่าว

- เดินสันติยาตราราชประสงค์

เมื่อ เวลา 08.00 น. บริเวณสี่แยกราชประสงค์ กลุ่มเครือข่ายสันติวิธี อาสาสมัครเครือข่ายสันติวิธี มูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป กลุ่มเสขิยธรรม มูลนิธิหมู่บ้านพลัม กลุ่มธรรมยาตราลุ่มน้ำลำปะทาวฯ นายโคทม อารียา ผอ.ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี ร่วมรณรงค์ "สันติยาตราสู่สังคมสันติสุข" เพื่อเป็นกุศลสู่ขวัญ แด่ผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกฝ่าย

ผู้สื่อ ข่าว รายงานว่า เวลา 08.30 น. ขบวน การรณรงค์ได้เริ่มต้นเดินจากบริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยหัวขบวนมีการถือป้ายข้อความว่า "สันติยาตราสู่สังคมสันติสุข" จากนั้นเป็นขบวนพระสงฆ์ 85 รูป ต่อด้วยเครือข่ายสันติยาตรากว่า 100 คนร่วมกันสวมใส่เสื้อสีขาว และปิดท้ายขบวนด้วยภิกษุ ภิกษุณีจากหมู่บ้านพลัม 50 รูป ออกเดินรณรงค์โดยใช้ช่องทางจราจรหนึ่งเลน พร้อมกับชูธงธรรมจักรสีเหลือง โดยเดินจากบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เข้าสู่ ถ.เพชรบุรี ออกสู่ประตูน้ำ ผ่านร.พ.มิชชั่น เข้าสู่ ถ.ยมราช ผ่าน ถ.ราชดำเนิน ถึงที่หมายคืออนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ตลอดการเดินเท้ามีประชาชนให้ความสนใจและไถ่ถามเป็นจำนวนมาก

เวลา ประมาณ 10.30 น. กลุ่มเครือข่ายสันติยาตรา เดินทางถึงอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา จากนั้นได้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเพื่ออุทิศส่วนกุศล และสังฆทาน ถวายภัตตาหารเพล และร่วมกันรับประทานอาหาร จากนั้นได้แยกย้ายกันกลับบ้าน

- โคทมเชื่อความขัดแย้งจะลด

ในช่วง เช้า ก่อนเดินรณรงค์ นายโคทม ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากวันนี้ไปความขัดแย้งทางการเมืองจะลด คิดว่าในขณะนี้รัฐบาลควรดำเนินการตามแผนปรองดอง 5 ข้อ แต่เท่าที่เห็นยังไม่มีอะไรที่เดินหน้าเป็นรูปธรรม ส่วน ตัวคิดว่าเรื่องแรกที่ควรดำเนินการให้เร็วที่สุด คือการปฏิรูปสื่อ ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปประเทศยังรวมถึงการสร้างความปรองดองในระดับพรรคการเมือง ซึ่งจะสังเกตได้ภายหลังการอภิปรายในสภา หากทั้งสองฝ่ายมีความคิดเห็นไปทิศทางเดียวกัน ทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้าน แนวโน้มที่คนจะหันมา ปรองดองกันจะมีมากขึ้นกลุ่มนปช. เคยชุมนุม เกรงว่าจะมีประชาชนบางคนไม่เข้าใจหรือไม่ นายโคทม กล่าวว่า ไม่ห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะวันนี้เรามีเจตนามาทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิต ไม่มีจุดมุ่งหมายทางการเมือง ตนเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ

- หลากสียื่นถอด 10 ส.ส.เพื่อไทย

เมื่อ เวลา 11.40 น. ที่รัฐสภา ทพ.ญ.พจนพรรณ มีสัจจี พร้อมสมาชิกในนามกลุ่มไทยรวมใจ ซึ่งเป็นเครือข่ายหนึ่งของกลุ่มเสื้อหลากสีได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายประสพ สุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาเพื่อแสดงตนเป็นผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชน 20,000 คน เพื่อขอให้วุฒิสภาถอดถอนส.ส.ของพรรคไทยรักไทยจำนวน 10 คน โดยอ้างว่ามีพฤติกรรมไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270 ประกอบด้วย 1.พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ขึ้นปราศรัยบนเวทีคนเสื้อแดงกล่าวพาดพิงสถาบัน 2.น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. กรณีขึ้นเวทีคนเสื้อแดง 3.นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ ปราศรัยบนเวทีเสื้อแดง 4.นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัด ส่วน ที่ปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล 5.นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี ที่ปราศรัยให้คนเสื้อแดงปิดล้อมรัฐสภา 6.พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา ที่ให้สัมภาษณ์กล่าวหาทหารเป็นแนวกันชนให้รัฐบาลอำมาตย์ 7.นายสมคิด บาลไธสง ส.ส.หนองคาย ที่อภิปรายโจมตีพ.ท.เกรียงศักดิ์ นันทโพธิ์เดช ผบ.ร.12 พัน.2 รอ. 8.นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา ปราศรัยบนเวทีโจมตีผู้นำประเทศ คนในรัฐบาล และองคมนตรี 9.น.ส. วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย ที่ดูหมิ่นศาล และ10 นายพีระพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร ที่ขึ้นเวทีโจมตีรัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งพฤติกรรมของสมาชิกพรรคเพื่อไทยทั้ง 10 คน ควรต้องได้รับการตรวจสอบและนำไปสู่การถอดถอนจากตำแหน่งตามมาตรา 274

ด้าน นายประสพสุข บุญเดช กล่าวว่า วุฒิสภาจะตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ริเริ่มโดยจะตรวจสอบไปยังกระทรวงมหาดไทย และกกต.ว่ามีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญที่ระบุไว้หรือไม่ ทั้งนี้ผู้ริเริ่มต้องรวบรวมรายชื่อประชาชน 2 หมื่นชื่อและส่งให้วุฒิสภาภายใน 180 วันนับแต่วันที่ยื่น ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 25 พ.ย.

- จตุพรอัดมาร์คน้ำใจเชือดคอ

วัน เดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัด ส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงน.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสี จะรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อยื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภาให้ถอดถอน และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ข้อหากระทำการขัดรัฐธรรมนูญมีส่วนเกี่ยวข้องในการชุมนุมก่อความไม่สงบว่า หมอตุลย์เป็นคนหนึ่งที่ไปร่วมปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ และเป็นคนหนึ่งที่ถือเป็นอภิสิทธิ์ชน ตนทราบว่าในวันที่ 20 พ.ค. หลังการสลายการชุมนุมหนึ่งวัน น.พ.ตุลย์ เข้า ไปตรวจค้นผู้ชุมนุมภายในวัดปทุมวนารามฯร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตนทราบมาว่าน.พ.ตุลย์ เข้าไปเพื่อดึงเอาคนบางคนที่ยังติดอยู่ออกมา เรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบกันแน่นอน

"วันนี้ อภิสิทธิ์ ปากบอกว่าปรองดอง แต่น้ำใจเชือดคอ ไม่รู้ว่ายังอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อย่างไรฆ่าคนไป 88 ศพ เกิดการเผาขึ้นหลายแห่ง ขนาดพล.อ.สุจินดา คราประ ยูร อดีตนายกฯ ฆ่าไป 40 ศพ และมีการเผากรมประชาสัมพันธ์ ยังอยู่ไม่ได้ จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกฯก็มีการเผา สำนักงานคณะกรรมการตรวจและติดตามผลการปฏิบัติราชการ (กตป.) ก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน ถามว่าจะให้ผมไปปรองดองกับฆาตกรได้อย่างไร วันนี้สื่อรายงานแต่เพียงการเสียหายของตึก ไม่ได้พูดถึงชีวิตคนที่ตายไป คดีของนายอภิสิทธิ์ หนังผมเยอะ คดีฆ่าคนตาย 77 คดีและข้อหาพยายามฆ่าอีกกว่า 2 พันคดี ส่วนเรื่องที่วัดปทุมฯก็ขว้างงูไม่พ้นคอ" นายจตุพรกล่าว

- ชี้ดีเอสไอเครื่องมือคุกคาม

เวลา 10.00 น. ที่พรรคพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีผู้ก่อการร้าย ระบุถึงความคืบหน้าการขออนุมัติออกหมายจับแกนนำนปช.รุ่นที่ 3 ในคดีก่อการร้ายเพิ่มเติมกว่า 20 คน ซี่งมีส.ส. พรรคเพื่อไทยอยู่ในข่ายด้วยว่า การออกมาให้ข่าวของนายธาริต มีนัยทางการเมือง ต้องการดิสเครดิตทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคเพื่อไทย ถือเป็นการข่มขู่คุกคาม ใช้กฎหมายพิเศษเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อไม่ให้พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะในการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่ 31 พ.ค.-1 มิ.ย.นี้ ไม่ให้เป็นไปโดยสะดวก เนื่อง จากฝ่ายค้านจะตรวจสอบทั้งเรื่องการทุจริตและการสลายการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.-19 พ.ค.จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 88 ราย บาดเจ็บเกือบ 2,000 ราย และโยงว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย เพื่อทำลายน้ำหนักการอภิปรายของฝ่ายค้าน

- ใช้ก่อการร้ายทำลายคนอื่น

นาย พร้อมพงศ์ กล่าวว่า ทั้งหมดคือวิชามารของคนในรัฐบาลที่ใช้หน่วยงานของรัฐเป็นเครื่องมือทางการ เมือง กล่าวหาแกนนำและกลุ่มผู้ชุมนุมว่ามีอาวุธสงครามร้ายแรงแต่จากเหตุสลายการ ชุมนุม ไม่พบอาวุธสงครามร้ายแรงอยู่กับผู้ชุมนุม แต่มีการจัดฉากว่าพบอาวุธร้ายแรงหลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมจบสิ้นลง หลังประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกจากเคหสถานในยามวิกาล และพื้นที่ชุมนุมมีแต่เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อยู่ปฏิบัติงาน ดังนั้นที่รัฐบาลและศอฉ. กล่าวหาว่าแกนนำนปช. เป็นผู้ก่อการร้าย เป็นข้อกล่าวหาที่ยังไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ถ้าเปรียบเทียบกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีระเบิดคาร์บอมบ์รายวัน และลอบยิงประชาชน และเจ้าหน้าที่เสียชีวิตกว่า 4,000 ราย รัฐบาลยังเรียกว่าผู้ก่อความไม่สงบ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ ใช้คดีก่อการร้ายเป็นประโยชน์ทางการเมือง แทนที่จะมองที่ข้อเท็จจริง ความขัดแย้งถึงได้บานปลาย ขยายวงกว้างไปยังต่างจังหวัด เพราะรัฐบาลขาดนิติรัฐและนิติธรรม

นาย พร้อมพงศ์ กล่าวว่า จึงขอเรียกร้องให้ดีเอสไอ อย่าเป็นเครื่องมือทางการเมืองของรัฐบาล เพราะถ้าฟ้าเปลี่ยนสี ประชาชนกลับมามีอำนาจ ข้อเท็จจริงถูกเปิดเผย บุคคลและหน่วยงานที่ลุแก่อำนาจที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการให้ร้าย ประชาชน จะถูกดำเนินคดีเสียเองตามกฎแห่งกรรม

- โทรโข่งโต้วุ่น-มาร์คเปล่าสั่งฆ่า

วัน เดียวกัน นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทวิตเตอร์ครั้งล่าสุดตอบโต้นายกฯ มีประเด็นที่ทำให้นายกฯเสียหาย 1.พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่านายกฯ สั่งฆ่าคนเป็นร้อย บาดเจ็บ 2 พันคน ถ้าจะจับตน จับทุกรูปแบบคงไม่สำเร็จ ลงทุนฆ่าคนไทยเหมือนผักปลา ขอแจงว่าข้อกล่าวหาพ.ต.ท. ทักษิณ ไม่เป็นความจริง นายกฯไม่มีพฤติกรรมสั่งฆ่าใคร อยากถามว่าใครกันแน่คือคนที่เบื้องหลังคนชุดดำ สั่งฆ่าคนหรือกลุ่มก่อการร้ายที่ฆ่าประชาชนเพื่อเอาศพมาเป็นเครื่องมือโค่น ล้มรัฐบาล เพื่อให้ตัวเองกลับเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง

นายเทพ ไท กล่าวว่า 2.พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า รัฐบาลบอกให้คนมารวมตัวที่วัดปทุมวนาราม แล้วพาไปไว้ที่ตชด.คลอง 5 เรียนว่า การนำคนเสื้อแดงในวัดปทุมฯกลับบ้านเป็นการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย รัฐบาลไม่ได้จับประชาชนไปไว้ที่คลอง 5 จะคุมขังเฉพาะคนทำผิดกฎหมายเท่านั้น แต่ผู้บริสุทธิ์รัฐบาลจะส่งกลับบ้าน 3.พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวว่า รัฐบาลหมดความชอบธรรม เพราะเป็นรัฐบาลสังหารประชาชน ทหารใช้สไนเปอร์ยิงประชาชนมือเปล่า ประเทศจะเป็นวัวพันหลัก เชือกที่เหลือสั้นลงเขาวัวก็จะทิ่มดิน คิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ต่างหากที่กำลังทำเพื่อตัวเอง เชื่อว่ากำลังใช้บ่วงเชือกผูกคอตัวเอง ยิ่งดิ้นเชือกก็ยิ่งมัดคอตัวเอง 4.พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าทำหนังสือให้ตำรวจสากลจับในข้อหาก่อการร้าย ประเทศมอนเตเนโกรจะไม่ส่งตัวให้นั้น รัฐบาลจะทำตามหน้าที่ ทำตามกฎหมาย ประเทศมอนเตเนโกรจะไม่ส่งมาให้ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา

- "มาร์ค"ถกศอฉ.ฟังรายงาน

เวลา 09.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเข้าร่วมประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ซึ่งตั้งอยู่ภายในกองทัพบก มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผอ.ศอฉ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. พล.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ ผู้ช่วยผบ.ทบ. (1) พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผบ.ทบ. (2) พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสนาธิการทหารบก พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผบ.พล.1 รอ. พล.ต.สุรศักดิ์ บุญศิริ ผบ.พล.ม.2 รอ.) และ พล.ต.อุทิศ สุนทร ผบ.พล.ร.9 นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง จากนั้นเวลา 13.30 น. นายกฯ ได้เดินทางกลับบ้านพักในซอยสุขุมวิท 31

ผู้สื่อ ข่าวรายงานว่า เดิมศอฉ.กำหนดประชุมไว้ในเวลา 16.00 น. แต่นายกฯต้องการให้เลื่อนการประชุมมาเวลา 09.30 น. แทน ทั้งนี้ ที่ประชุม ศอฉ. นายกฯได้รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น หลังจากรัฐบาล และศอฉ. มีมติประกาศยกเลิกการประกาศพื้นที่ควบคุม หรือ เคอร์ฟิวในพื้นที่ กทม. และพื้นที่ต่างจังหวัดอีก 24 จังหวัด รวมถึงรายงานภาพรวมสถานการณ์ในพื้นที่ กทม.และภูมิภาค ทั้ง นั้นายกฯรับทราบแนวทางที่จะเฝ้าระวังในพื้นที่ต่างๆ ด้วย

- ห่วงต่างชาติไม่เชื่อ-ฉายเทปซ้ำ

"ศอ ฉ.ได้บรรยายลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เพื่อเตรียมชี้แจงกรณีที่มีการขอให้ชี้แจงในเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นของสถานการณ์บ้านเมือง ขณะเดียวกันนายกฯได้ให้แนวทางในเรื่องการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนเพิ่ม เติมว่า การชี้แจงกับเอกอัครราช ทูต และผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 29 พ.ค.บางส่วนยังไม่เข้าใจการปฏิบัติงาน ซึ่งการปฏิบัติการที่ผ่านมา ศอฉ.ไม่ได้สลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่เป็นการกระชับวงล้อม และตั้งด่านตรวจ เพื่อตัดเส้นทางการส่งบำรุงต่างๆ ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเท่านั้น เพื่อพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตราย การกระทำดังกล่าวของรัฐบาล หรือศอฉ. เพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้มันดีขึ้น ไม่ได้ต้องการให้เกิดความรุนแรง" แหล่งข่าวระบุ

แหล่ง ข่าว ระบุด้วยว่า นายกฯเป็นห่วงกรณีที่มีบางส่วนไม่เข้าใจที่รัฐบาลตั้งข้อกล่าวหาก่อการร้าย กับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งจริงๆ การทำงานเป็นไปตามกฎหมายอาญาที่ระบุไว้อย่างชัดเจน ซึ่งวันนี้เวลา 20.30 น. จะนำเทปที่นายกฯชี้แจงไว้กับบรรดาเอกอัครราชทูต และผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ออกอากาศซ้ำอีกเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันถึงภารกิจต่างๆ ที่ศอฉ.ปฏิบัติมา ซึ่งวัตถุประสงค์ในการใช้กำลังทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้เข้าไปปราบปราม แต่เพื่อสกัดบีบวงล้อม เนื่องจากกองกำลังติดอาวุธพยายามใช้พื้นที่สวนลุมพินีเป็นฐานโจมตี ศอฉ.จึงจำเป็นต้องใช้กำลังทหารกระชับวงล้อมเพื่อต้องการยุติกองกำลังติด อาวุธเหล่านี้

- ปลื้มงาน 3 กองพลสลายม็อบ

"การทำ งานของ รัฐบาล และ ศอฉ.ที่ผ่านมา ถือว่ามีความชัดเจนมาก จึงไม่น่าเป็นห่วงขณะเดียวกันนายกฯได้มีการพูดถึงการทำงานของ ศอฉ. ภายใต้การประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยให้ดูว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะไม่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะการปิดเว็บไซต์ รัฐบาลไม่มีนโยบายที่เหวี่ยงแห หรือครอบคลุม แต่การปฏิบัติงานจะดูบุคคลที่เข้าไปใช้และไม่เหมาะสมเท่านั้น การปิดเว็บไซต์ไม่ได้เป็นนโยบายของรัฐบาล เพียงแต่สั่งการให้ดูแลตามความเหมาะสม" แหล่งข่าวกล่าว

แหล่ง ข่าว กล่าวอีกว่า ศอฉ.ได้สรุปสถาน การณ์การปฏิบัติงานที่ผ่านมาทั้งหมด โดยเฉพาะการปฏิบัติของของกำลังทหารที่มีการสนธิกำลังทางจาก 3 กองพล คือ พล.1 รอ., พล.ม.2 รอ. และ พล.ร.9 พร้อมกับได้มอบเอกสารทั้งวีซีดี และเอกสารที่พิมพ์จากคอมพิว เตอร์ มอบให้นายกรัฐมนตรีไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อนายกรัฐมนตรีได้รับฟังการบรรยายสรุปจาก ศอฉ. และได้ดูภาพเหตุการณ์ที่ต่างๆ ที่ศอฉ.รวบรวมให้ก็รู้สึกพอใจต่อการปฏิบัติงานที่ผ่านมา และขอบคุณเจ้าหน้าที่ศอฉ.ทุกคนที่ปฏิบัติภารกิจครั้งนี้เพื่อประเทศชาติ และยืนยันว่ารัฐบาล และศอฉ.จะปฏิบัติภารกิจภายใต้กฎกติกาของบ้านเมือง และยึดหลักตามสากลทุกประการ

- โฆษกอ้างสื่อเทศไม่เข้าใจศอฉ.

นาย ปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงผลการประชุมว่า ที่ประชุมศอฉ.ได้สรุปและประเมินสถานการณ์ต่างๆ ภายหลังไม่มีการต่อเคอร์ฟิว ปรากฏว่าสถานการณ์เป็นไปตามปกติและหลังจากนั้นศอฉ. ได้รายงานสรุปผลการดำเนินงานของศอฉ.ทั้งหมดตั้งแต่วันแรกที่มีคำสั่งแต่ง ตั้งว่าเป็นอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตามในภาพรวมของการทำงานถือว่านายกรัฐมนตรีพอใจ สำหรับการยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก. บริหารราชการในสถานฉุกเฉินนั้นที่ประชุมยังไม่มีการหารือ

นาย ปณิธาน กล่าวว่า ในที่ประชุมนายกฯได้เล่าถึงการเปิดให้คณะทูตและสื่อมวลชนต่างประเทศพบเมื่อ วันที่ 29 พ.ค.ซึ่งมีการตั้งคำถามมากถึงการทำงานของศอฉ. จึงขอให้ศอฉ. เตรียมข้อมูลชี้แจงภายหลังจากเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อให้มีการยอมรับและเข้าใจการทำงานของศอฉ.ให้มากขึ้น เพราะทั้งสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ รวมทั้งองค์กรต่างๆ ยังติดใจกับการทำงานของศอฉ. ทั้งนี้ นายกฯได้ให้แนวทางว่าการทำงานของศอฉ.เป็นการทำงานของเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วน จากหลายพื้นที่เข้ามาร่วมกัน ซึ่งศอฉ.ต้องยืนยันว่าไม่ได้มีการสลายการชุมนุมตั้งแต่แรก แต่เป็น การกระชับพื้นที่ ตัดเสบียง ไม่มีการสลายการชุมนุม เพราะบางอย่างอาจจะมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยเฉพาะเรื่องของผู้ก่อการร้ายที่ศอฉ.ต้องชี้แจงว่าผู้ชุมนุมทั้งหมดไม่ใช่ เป็นผู้ก่อการร้าย แต่มีเพียงแค่บางกลุ่มเท่านั้น

- จุฬาฯเคลื่อนไหวกดดันปล่อย

ส่วน ความเคลื่อนไหวของคณาจารย์จุฬาลง กรณ์มหาวิทยาลัยนั้น น.ส.นฤมล ทับจุมพล อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 31 พ.ค. นี้ ครอบครัว และภรรยาของนายสุธาชัย ที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จ.สระบุรี จะเดินทางไปเยี่ยมนายสุธาชัย เพื่อสอบถามถึงความเป็นอยู่ และเรื่องสุขภาพ เนื่องจากที่ผ่านมานายสุธาชัยต้องอดอาหาร เพื่อประท้วงกรณีที่ถูก ศอฉ.ยึดตำราการเรียนการสอน และอาจจะกระทบต่อสุขภาพโดยตรงเพราะโรคประจำตัว ซึ่งอาจจะมีการพูดคุยเพื่อหาทางช่วยเหลือนายสุธาชัย

น.ส.นฤมล กล่าวอีกว่า ในส่วนอาจารย์จุฬาฯ รู้สึกเป็นห่วงนายสุธาชัยทั้งในเรื่องของสุขภาพกายและสุขภาพทางจิตใจ เพราะอาจารย์ทุกท่านต้องเตรียมเรื่องการเรียนการสอน เพื่อนำความรู้มาถ่ายทอดให้กับนักศึกษา ดังนั้นอาจารย์จึงต้องมีการวางแผนการสอน ซึ่งขณะนี้เราก็ไม่รู้ว่ามีการคืนตำราการสอนให้กับอาจารย์หรือยัง เพราะยังไม่สามารถติดต่อกับอาจารย์ได้ อีกทั้งในวันที่ 31 พ.ค. จะมีการลงทะเบียนของนิสิต ซึ่งจะมีการลงทะเบียนในรายวิชาของอาจารย์สุธาชัยด้วย อีกทั้งทราบมาว่า ทางศอฉ.ได้ขยายเวลาในการควบคุมตัวอาจารย์สุธาชัยออกไปอีก 7 วัน ซึ่งเชื่อว่าจะกระทบต่อการเรียนการสอนของนิสิตอย่างแน่นอน

"คณาจารย์ จุฬาฯในรั้วมหาวิทยาลัยจุฬาฯทุกท่าน รู้สึกเป็นห่วงอาจารย์สุธาชัยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ในฐานะที่เป็นนักวิชาการเพื่อนร่วมวิชาชีพ เราได้เคลื่อนไหวอยู่ในกลุ่มเล็กๆ แต่ขณะนี้ ศอฉ.ได้ขยายเวลาควบคุมตัวออกไปอีก 7 วัน ดังนั้นอาจารย์จุฬาฯ ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน จะมีการเคลื่อนไหวในนามมหาวิทยาลัย โดยได้ลงชื่อเพื่อยื่นหนังสือต่อศ.น.พ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อดำเนินการกดดันให้ทาง ศอฉ.ปล่อยตัวและคืนสิทธิเสรีภาพของอาจารย์สุธาชัย" น.ส.นฤมล กล่าว

- อัดปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ

 น.ส.นฤมล กล่าวว่า นอกจากนี้ในส่วนของทีมทนายของอาจารย์สุธาชัย กำลังดูในเรื่องของข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว เพื่อดำเนินการช่วยเหลืออาจารย์ อีกทั้งทราบว่า จะมีทีมนักกฎหมายที่มีความรู้ความสามารถในคดีที่เกี่ยวข้องกับการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามาช่วยดูในเรื่องของข้อกฎหมายอีกช่องทางหนึ่ง

"เราเริ่มไม่ไว้ ใจพฤติกรรมของรัฐบาล เนื่อง จากที่ผ่านมารัฐบาลพยายามพูดเสมอว่า จะเร่งแผนปรองดองเพื่อชาติ แต่หากพิจารณาดูให้ลึกจะพบว่า รัฐบาลนี้ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ เพราะการกระทำของรัฐบาลนี้สวนทางกับการแนวทางที่ต้องการปรองดอง พูดอย่างทำอีกอย่าง ที่ผ่านมาในเมื่อเราได้พยายามชี้แจงเหตุผลและข้อเท็จจริงแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่สน ไม่ยึดแนวทางปรองดองของเรา พวกเราก็จนปัญญา และหากรัฐยังไม่จริงใจแล้ว เชื่อว่าความรุนแรงทางการเมืองก็คงจะไม่ยุติ" อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าว

- เครือข่ายน.ศ.แถลงประณามศอฉ.

วัน เดียวกัน กลุ่มประชาคมธรรมศาสตร์คัดค้านอำนาจนอกระบบ ประกอบด้วยนิสิต นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ นำโดยนายรักนิรันดร์ วรรณวีรพงษ์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกแถลงการณ์ประ ณามพฤติกรรมคุกคามเสรีภาพทางวิชาการของรัฐบาลไทย และรวบรวมรายชื่อประท้วงการควบคุมตัว นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ของ ศอฉ. ผ่านทางเว็บไซต์ชุมนุมออนไลน์ หรือเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ขอประณามรัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ กรณีการคุมขังนายสุธาชัย และขอเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวเป็นอิสระในทันที เพราะรัฐบาลขาดความชอบธรรมที่จะกักขัง เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดเชื่อมโยงว่านายสุธาชัยเกี่ยวข้องกับความไม่ สงบที่เกิดขึ้น ซึ่งการจับกุมตัวนักวิชาการที่มีความเห็นแตกต่างกับตนนั้น ไม่ต่างกับประเทศพม่า เกาหลีเหนือ หรือแม้กระทั่งประเทศอิรักในยุคของซัดดัม ฮุสเซน แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม กลุ่มประชาคมฯ ได้ประกาศเชิญชวนผู้ที่เห็นด้วยร่วมลงชื่อ เพื่อนำไปยื่นให้แก่สื่อมวลชนที่รัฐสภา ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้ มีผู้มาร่วมลงชื่อแล้วกว่า 150 คน ทั้งนิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป

- "อ๋อย"อัดใช้โวหารเอาตัวรอด

เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมเรดิสัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงการนำเสนอแผนปรองดองแห่งชาติว่า นายอภิสิทธิ์ ใช้คารมโวหารแก้ปัญหาเอาตัวรอดไปวันๆ เป็นการเสนอที่ไม่มีวันจะปรากฏเป็นจริงได้ แต่จะยิ่งทำให้บ้านเมืองแตกแยกและวิกฤตลงไปเรื่อยๆ ส่วนที่นายกฯชี้แจงต่อทูตและผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เป็นการแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ฟังไม่ขึ้น ตอบไม่ตรงประเด็น เป็นเพียงการฟอกตัวเอง เท่าที่สังเกตจากคำถามก็แสดงให้เห็นว่ายังมีคำถามที่ทูตหลายประเทศยังห่วงใย และไม่สบายใจ เช่น ที่ถามว่าจะขอโทษหรือไม่ ลาออกหรือไม่ จะเลือกตั้งตามกำหนดที่เคยพูดไว้หรือไม่

- ชี้ต้องออกก่อนตั้งกก.สอบ

นาย จาตุรนต์ กล่าวว่า หากมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา คณะกรรมการชุดนี้ควรตรวจสอบ ศึกษาวิเคราะห์ถึงต้นเหตุวิกฤตของประเทศที่นำมาสู่การชุมนุมและเกิดความสูญ เสีย ว่าใครทำผิดกฎหมายในเรื่องใด ฝ่ายนปช.ผิดกฎหมายอะไร รวมทั้งผิดฐานก่อการร้ายและล้มสถาบันจริงหรือไม่ ส่วนฝ่ายรัฐบาลกระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญ ขัดต่อกฎหมาย ขัดข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชนหรือไม่ และควรวิเคราะห์ทาง ออกจากวิกฤต และการป้องกันไม่ให้วิกฤตบานปลายและยืดเยื้อไม่สิ้นสุดด้วย

"การ ตั้งคณะกรรมการจะต้องเป็นที่ยอมรับของหลายฝ่ายและสังคมโดยรวม ซึ่งเป็นเรื่องยาก เพราะทุกวันนี้หาคนกลางได้ยากมาก ที่สำคัญที่สุดคือ ปัญหาว่าใครจะเป็นคนตั้ง เนื่องจากนายกฯเป็นคู่กรณีโดยตรงและยังเป็นผู้ถูกกล่าวหาเสียเองด้วย การให้นายกฯตั้งคณะกรรมการจึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะได้คนที่เป็นที่ยอมรับ ตราบใดที่นายอภิสิทธิ์ยังเป็นนายกฯและยังกำกับสั่งการทั้งตำรวจ ดีเอสไอ และอีกหลายหน่วยงานที่มีส่วนทำให้เกิดปัญหาหรือเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยใน ความเป็นกลาง ตราบนั้นจะหวังให้เกิดการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เป็นที่ยอมรับไม่ได้เลย" นายจาตุรนต์ กล่าว

- เติมหนวดมาร์ค-พังป้ายรัฐบาล

ผู้สื่อ ข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ว่าขณะนี้ได้มีมือมืดออกตระเวนทำลายป้ายประชา สัมพันธ์โครงการไทยเข้มแข็งตามนโยบายของรัฐบาลที่สั่งให้ส่วนราชการทุกแห่ง ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนงบโครงการไทยเข้มแข็ง โดยทำป้ายประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่ติดตั้งตามสถานที่ราชการ รวมทั้งในหมู่บ้าน ทั้งหน้าที่ว่าการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยป้ายประชาสัมพันธ์ของโครงการไทยเข้มแข็งได้ระบุจำนวนงบประมาณที่ได้รับ จัดสรร การสิ้นสุดโครงการ เป็นต้น

หลังจาก ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มีการสลายการชุมนุม กลุ่มผู้ประท้วง นปช.ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เป็นต้นมา ทำให้ป้ายประชาสัมพันธ์โครงการไทยเข้มแข็งตามหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งติดตามหน้าว่าที่การกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สถานที่ราชการได้รับงบประมาณ ได้ถูกมือดี นำสีสเปรย์ไปพ่นทับ เติมหนวดเติมเครา บางแห่งมีการนำเขาคล้ายเหมือนพญายมราชล้อเลียนเป็นการเอาชีวิตประชาชนในการ สลายชุมนุมที่ผ่านมา

นอกจาก นี้ ป้ายประชาสัมพันธ์โครงการไทยเข้มแข็งในย่านศูนย์ราชการในจังหวัดแพร่แห่ง หนึ่ง มีมือดีนำสีไปเติมหนวดรูปนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เหมือนอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ จอมเผด็จการนาซี ในการสั่งสลายการชุมนุมฆ่าประชาชนที่ผ่านมา ทำให้ส่วนราชการนั้น ต้องรีบเก็บป้ายประชาสัมพันธ์ลงเป็นการเร่งด่วน และมีส่วนราชการอีกหลายแห่งที่ได้รับงบโครงการไทยเข้มแข็งที่นำติดไว้ใกล้ สถานที่ราชการต้องเก็บลงเกรงว่าหากมีการเผาจะลุกลามไหม้สถานที่ทำงาน เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น