วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

"จตุพร"ชี้แดงทยอยตาย3ศพแล้วท้า "สุเทพ"สาบานวัดพระแก้ว ขู่เจอปชช.รอบ3สถานการณ์เลวร้ายมาถึงเร็วแน่

"จตุพร"ชี้แดงทยอยตาย3ศพแล้วท้า "สุเทพ"สาบานวัดพระแก้ว ขู่เจอปชช.รอบ3สถานการณ์เลวร้ายมาถึงเร็วแน่

นายจตุ พร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวถึงกรณีการตายของนายศักดิ์นรินทร์ กองแก้ว หรือ "อ้วน บัวใหญ่" แกนนำนปช. จ.นครราชสีมา ว่า นอกจากมีนายอ้วนแล้ว ก่อนหน้านี้ยังมีคนตายอีก 1 คนที่จ.นครพนม และล่าสุดอีก 1 ศพที่เป็นศพที่ 3 ที่พัทยา ซึ่งเป็นการ์ดนปช. แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลดำเนินการไล่ล่าประชาชนทั้งที่ได้ยุติการชุมนุมและเขา กลับบ้านก็ยังไปไล่ล่าเขาถึงที่บ้าน ถ้ารัฐบาลไม่ทำแล้ว แมวที่ไหนจะทำ

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ขอท้านายสุเทพสาบานต่อ หน้าวัดพระแก้วว่ากล้าหรือไม่ เพราะทราบมาว่าอาวุธที่ยึดได้ที่ราชประสงค์มีแค่ปืนสั้น 2 กระบอกเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้พรรคพวกที่ร่วมประชุมในศอฉ.ได้บอกกับตนว่า เขารู้สึกอับอายรวมทั้งกรณีที่มีการนำอาวุธมาจัดฉากอย่างมากมาย ที่ผ่านมามีคนตายกว่า 80 คน การที่รัฐบาลระบุว่า คนที่ตายเป็นมืออาชีพ ที่สามารถนำอาวุธไปทิ้งได้ ขอถามว่าคนที่ตายไปแล้วจะนำอาวุธไปทิ้งได้อย่างไร ถือเป็นการใส่ร้ายแบบปัญญาอ่อน ทั้งนี้ในวันที่ 13 มิ.ย.เวลา 15.00 น.ตนพร้อมด้วยพ.อ.อภิวันท์วิริยะชัย รองประธานสภา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปรวมงานเผาศพนายอ้วน ที่ จ.นครราชสีมา เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่กัน

"สมัยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ไม่เคยสั่งฆ่าประชาชนมากมายเท่านี้ หากไม่หยุดไล่ล่าล่าฆ่าประชาชน สถานการณ์ที่เลวร้ายก็จะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิด เพราะประชาชนที่ถูกตามไล่ฆ่า รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต้องได้รับการเยียวยาสภาพจิตใจ มีความคับแค้น หากมีการโดนจับโดนตามฆ่า ถ้าไม่หยุดพฤติกรรมเช่นนี้จะเจอประชาชนรอบที่สาม การที่ไปยัดเยียดความตายให้กับเขาแม้ว่าเขาจะกลับบ้านไปแล้วกลุ่มคนเสื้อแดง ก็จะกล้าสุดถึงกล้าที่สุด เพราะขนาดหมาจนตรอกก็ยังสู้"

ผู้สื่อ ข่าวถามว่า สาเหตุการตายของแกนนำนปช. ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นเพราะมีการต่อสู้กันใต้ดินระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มคนเสื้อแดงใช่หรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ในส่วนของคนเสื้อแดงยืนยันว่า เราไม่มีแผนที่จะเดินเกมใต้ดินเพื่อต่อสู้กับรัฐบาล แต่เราจะต่อสู้บนดิน เพราะขณะนี้อำนาจเถื่อนอยู่บนดินชัดเจน รัฐบาลมีพฤติกรรมแบบศาลเตี้ย ฝ่ายตนมีหน้าที่ตาย ขณะที่รัฐบาลมีหน้าที่ฆ่าประชาชน

มือปืนบุกยิงแกนนำเสื้อแดงที่นครพนม

มือ ปืนอุกอาจ บุกยิงแกนนำคนเสื้อแดงศรีสงคราม จ.นครพนม หลอกถามบ้านผู้ใหญ่ ก่อนลั่นไกคาบ้านพักกลางดึก อาการสาหัสตำรวจมุ่งขัดแย้งการเมือง

เหตุยิงแกนนำคนเสื้อแดงครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 30 พ.ค.53 ร.ต.ท.เพ็ชร กิจพฤกษ์ ร้อยเวร สภ.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม รุดตรวจสอบ หลังรับแจ้งว่า มีผู้ถูกยิงมารักษาตัวที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลอำเภอศรีสงคราม จึงเดินทางไปตรวจสอบภายในห้องฉุกเฉิน พบแพทย์พยาบาลกำลังให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยผู้บาดเจ็บถูกยิงคือ นายศุภฤกษ์ ทากิระ อายุ 40 ปี อดีตผู้สมัคร สจ.นครพนม แกนนำคนสำคัญของ กลุ่มคนเสื้อแดงหรือ นปช.เขตอำเภอศรีสงคราม บ้านเลขที่ 91 หมู่ 2 บ้านคำสว่าง ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ได้รับบาดเจ็บถูกยิงบริเวณท้ายทอย ทะลุแก้มขวา อาการสาหัส โดยเหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านพักเลขที่ 197 หมู่ 3 บ.ภูกระแต ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม

ต่อมาเนื่องจากผู้บาดเจ็บมีอาการสาหัสมากเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งต่อไป รักษาที่โรงพยาบาลนครพนม เบื้องต้นผู้บาดเจ็บยังไม่สามารถให้การได้ ซึ่งระหว่างผู้บาดเจ็บนำตัวส่งมาถึงห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนครพนม โดยมี นางมนพร เจริญศรี อดีตนายก อบจ.นครพนม และ นายถิรวัฒน์ จำปาไชยศรี ประธานสภา อบจ.นครพนม กลุ่มการเมืองท้องถิ่นแกนนำคนเสื้อแดงนครพนม เดินทางมาดูอาการอย่างใกล้ชิด

ร.ต.ท.เพ็ชร กิจพฤกษ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ขณะ นายศุภฤกษ์ ทากิระ อายุ 40 ปี อดีตผู้สมัคร สจ.นครพนม กำลังนั่งคุยกับเพื่อนอยู่หน้าบ้าน ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขับรถยนต์แค็ป เซฟโรเลต สีบรอนทอง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดแล้วคนขับได้เปิดประตูลงมาสอบถามเส้นทางไปบ้านผู้ใหญ่บ้าน จนกระทั่ง นายศุภฤกษ์ ทากิระ ได้เดินออกมาแนะนำเส้นทาง ก่อนคนร้ายชักปืนออกมายิง จำนวน 1 นัด ก่อนขับรถยนต์หลบหนี จากนั้นเพื่อน และญาติจึงนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอำเภอศรีสงคราม และแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนประเด็นสำคัญตำรวจมุ่งเป้าเรื่องขัดแย้งทางการเมือง

"เนื่องจากผู้บาดเจ็บเป็นแกนนำคนสำคัญของกลุ่ม นปช.นครพนมเขตอำเภอศรีสงคราม เคยเป็นอดีตผู้สมัคร สมาชิกองค์การบริหารส่วน จ.นครพนม ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้นำกลุ่ม นปช. ขับไล่ นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ระหว่างไปร่วมงานรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ของ อบต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จนกระทั่งเกิดเหตุ นายปุ่น สาสอน อายุ 40 ปี กลุ่มคนเสื้อแดงชาวอำเภอศรีสงครามบุก เข้าทำร้ายชกต่อย นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปดำเนินคดี"

นอกจากนั้นคนบาดเจ็บยังเป็นแกนนำในการร้องเรียน นายสมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม พร้อม นายทันใจ ณ รังสี ส.อจ.นครพนม เขต อ.ศรีสงคราม คนสนิท นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ จนถูกใบแดง แต่มีการสู้คดี จนศาลฎีกาทางการเมืองยกฟ้อง เพิกถอนใบแดง เมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา ก่อนนางมนพร เจริญศรี รองนายก อบจ.จะถูกปลดกลางอากาศ ล่าสุดนายสมชอบ นิติพจน์ ได้ยื่นฟ้องทางแพ่งและอาญา อย่างไรก็ตามตำรวจจะได้สอบสวนพยานผู้พบเห็นเหตุการณ์โดยละเอียดหาสาเหตุ ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ยิงดับแกนนำเสื้อแดงโคราช

Pic_88639

คนร้าย รัวกระสุน ดับแกนนำคนเสื้อแดงโคราช ตร.ตั้งปมสังหาร 3 ปม เรื่องส่วนตัว , ชู้สาว และการเมือง เร่งเค้นสอบพยาน 5-6 ปากหาตัวคนร้าย...

เด็ดหัว แกนนำ เสื้อแดงโคราช “ เฒ่า หรืออ้วน..บัวใหญ่ คนร้ายมืออาชีพห้อปิคอัพเปิดกระจกจ่อยิงใบ้หน้าและลำตัว 5 นัด ตำรวจเผยปมประเด็น 3 แนวทางปมสังหารขัดแย้งส่วนตัว - ชู้สาว - การเมือง ด้าน รอง ผบก.โคราช เต้นรุดลงพื้นที่พร้อมชุดสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดควบคุมคดี เชื่อคาดคนร้ายมีไม่น้อยกว่า 2 คน

พ.ต.ท. พงษ์ศักดิ์ บุญดำเนินพาณิชย์ ร้อยเวร สภ.บัวใหญ่ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายเกิดขึ้น ที่บริเวณ 4 แยกชุมชนบ้านบัวใหญ่ ถนนเทศบาล 7 เขตเทศบาลเมืองบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังรุดตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบ นายศักดิ์นรินทร์ กองแก้ว หรือที่ชาวบ้านเรียกจนติดปากว่า “ อ้วนบัวใหญ่ ” มีบทบาทสำคัญเป็นแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มีอาชีพรับจ้างทั่วไป อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ถ.บัวใหญ่ 3 ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา เขตเทศบาลตำบลบัวใหญ่

ถูกยิง ด้วย อาวุธปืนขนาด.11 ม.ม. เข้าที่บริเวณใบหน้า 2 นัด , บริเวณลำตัว 3 นัด รวม 5 นัด อาการสาหัสเป็นตายเท่ากันและยังพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ในที่เกิดเหตุอีกจำนวน 1 ปลอก เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ฯ แต่นายศักรินทร์ฯ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า นายศักดิ์นรินทร์ฯได้ไปร่วมพิธีเข้าทรงเจ้าแม่ตะเคียนทอง ที่บึงบัวใหญ่ เขตเทศบาลเมืองบัวใหญ่ หลังเสร็จพิธีได้ขับรถจักรยานยนต์ เพื่อกลับบ้านโดยมี นายวีระยุทธ์ ดีสวน อายุ 17 ปี อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยรุ่นน้องนั่งซ้อนท้ายมาด้วย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีรถยนต์กระบะสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับเข้ามาตะโกนสอบถามเส้นทางที่จะไป อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ทำให้ นายศักดิ์นรินทร์ฯ ต้องขับรถ จยย.วนรถกลับมาหาเพื่อบอกทาง เมื่อเปิดกระจกลงมาทันทีคนร้ายที่นั่งคู่คนขับได้ชักปืนออกมาจ่อยิงที่เข้า ที่บริเวณใบหน้าและลำตัวจำนวนถึง 5 นัดซ้อนทำให้ นายศักดิ์นรินทร์ฯหงายหลังทรุดและล้มลงทันที เลือดไหลนองพื้นนอนหายใจรวยรินทั้งมือ และขาทั้งสองข้างสั่นชักกระตุก

ส่วนนาย วีระยุทธ์ฯที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยได้หมอบหลบลูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บ เล็กน้อย จากนั้นคนร้ายได้อาศัยช่วงกลางคืนขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอบัวใหญ่ฯ และเสียชีวิตเนื่องจากทนพิษบาดพลาดไม่ไหวเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามจากการสอบถามเพื่อนร่วมงานนายศักดิ์นรินทร์ฯทราบว่ามีรถยนต์ กระบะสีดำ ขับติดตามทนายศักดิ์นรินทร์ฯ มากว่า 3 วันแล้ว และได้เตือนให้นายศักดิ์นรินทร์ฯ ระวังตัว แต่นายศักดิ์นรินทร์ฯไม่เชื่อคำเตือน สุดท้ายก็มาถูกยิงดังกล่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งประเด็นการสอบสวนไว้ทั้งเรื่องความขัดแย้งส่วน ตัว, เรื่องชู้สาว และประเด็นทางการเมือง เพราะโดยส่วนตัวนายศักดิ์นรินทร์ฯ เป็นคนชอบช่วยเหลือคน มีเพื่อนฝูงมาก และเป็นที่รักใคร่ของคนในพื้นที่ แต่ว่าจะเป็นคนโผงผาง พูดจาเสียงดัง และอารมณ์ร้อน และหงุดหงิดง่าย

ล่าสุด เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (10 มิ.ย.)พ.ต.อ.วิชรวิชญ์ กฤษ์ฤทธิศักย์ รอง ผบก.ภ.นครราชสีมา หัวหน้าชุดสอบสวนสืบสวน เปิดเผยว่า ทางพล.ต.ต.อำนาจ อันอาตม์งาม รอง ผบช.ภ.3 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเองแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพร้อมกับตน และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดฯ ร่วมกับชุดสืบสวน ตร.สภ.บัวใหญ่ฯ เพื่อติดตามการสอบสวนคดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ และพยานแวดล้อมไปแล้ว 5 - 6 ปาก แต่เนื่องจากช่วงเกิดเหตุมืดมาก จึงไม่มีใครให้รายละเอียดคนร้ายได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนจะทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอีก เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายมีอย่างน้อย 2 คนคือ คนขับ 1 คน คนยิง 1 คน และการยิงโดยไม่ได้ลงจากรถมายิงแต่อย่างใด และดูแล้วลักษณะของมือปืนการเตรียมการณ์อย่างนี้ และบวกกับความแม่นยำและมีความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธเป็นอย่างดีก็น่าจะเป็น มืออาชีพ ส่วนประเด็นการสอบสวนนั้น ยังมุ่งไปที่ 3 ประเด็นหลักไม่ได้ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้ง โดยประเด็นแรกเรื่องของความขัดแย้งส่วนตัว เพราะเมื่อวันที่ 30 พ.ค.53ที่ผ่านมาผู้ตายไปมีเรื่องชกต่อยกับวัยรุ่นในพื้นที่ ประการที่สองเรื่องชู้สาว และประเด็นที่สามความเคลื่อนไหวทางการเมือง ในช่วง นปช. เป็นแกนนำมีบทบาทพอสมควรในกลุ่มคนเสื้อแดงในเขต อ.บัวใหญ่ฯ

ทั้งนี้ ผู้ตายเองก็เป็นผู้เสียสละกับสาธารณะเป็นที่อาสาสมัครตำรวจบ้าน , อปพร. เจ้าหน้าที่กู้ภัย อย่างไรก็ตามประเด็นต่างๆทั้ง 3 ประเด็นตำรวจให้หนักน้ำใกล้เคียงกันหมดทั้งสามประเด็น แต่ว่าเราต้องดูตามพยานหลักฐานที่จะต้องสอบและสืบจากพยานหลักฐานขึ้นไป โดยจะไม่สืบจากประเด็น ไม่สามารถตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไปได้ คาดว่าจะทราบเบาะแสคนร้ายในเร็ว ๆ นี้ เพราะคดีนี้มีผู้อยู่ในเหตุการณ์ขณะคนร้ายลงมือก่อเหตุด้วย ซึ่งเราต้องใช้เวลาสอบสวน เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พ.ต.อ.พ.ต.อ.วิชรวิชญ์ฯ กล่าว

ฆ่าเหี้ยมเสือเก่าชื่อดังแกนนำเสื้อแดง

วันนี้( 11 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15 .00 น.พ.ต.ท.ธงชัย สุขเจริญ รอง ผกก.ป.สภ.บ่อทอง จ.ชลบุรี รับแจ้งว่าพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าแค็ป รุ่นวีโก้ สีดำ ทะเบียน วน – 2730 ฉะเชิงเทรา สภาพใหม่ กระจกหน้ารถติดสติ๊กเกอร์ คำว่า “น้องปราย”จอดอยู่ในสวนยางพารา บริเวณป่าบ้านคลองยาง หมู่ที่ 8 ต.บ่อทอง โดยประตูทั้งสองข้างถูกปิดล็อคอย่างแน่นหนา ที่กระบะท้ายพบถังบรรจุน้ำมันสีฟ้าขนาด 20 ลิตร จำนวน 2 ถัง ต้นกล้วย 2 ต้น และกระเป๋าเสื้อผ้า 1 ใบ จึงได้ยึดไว้ตรวจสอบ พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยสว่างเหตุธรรมสถาน ให้ช่วยกันตรวจสอบ เนื่องจากบริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่ารกและมีช้างป่าออกมาหากินอยู่เป็น ประจำ เกรงว่าอาจจะได้รับอันตราย

ที่เกิดเหตุพบศพเป็นชาย นอนคว่ำหน้า นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ใส่เสื้อลายพรางทหาร ถูกมัดมือไพล่หลังด้วยเชือกร่มสีกรมท่า สภาพศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ มีหนอนไต่ยั้วเยี้ย ที่บริเวณลำคอ มีผ้าขาวม้ามัดอยู่อย่างแน่นหนา ตรวจค้นในกระเป๋าเสื้อพบเงินสด จำนวน 1,410 บาท จาการตรวจสอบ ทราบว่าเจ้าของรถคือนายอุมพร ดวงมณี อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ม.7 ต.กระจัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จึงได้ประสานไปยังนายอุมพร ก็ได้รับการยืนยันว่า เป็นรถยนต์ของตน และยืนยันว่าผู้ตายคือนายสวาท ดวงมณี อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นบิดาของตนเอง

โดยก่อนที่จะเสียชีวิตนั้น บิดาได้ไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านนายธนฤทธิ์ ใจหาญ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/52 ม.7 ต.อ่างคีรี อ.มะขาม จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นพี่ชายของตน โดยบิดาได้ออกจากบ้านที่ อ.มะขาม เมื่อตอนสายๆ ของวันที่ 6 มิ.ย.53 และบอกกับพี่ชายว่าจะไปหาเพื่อนที่ อ.เขาชะเมา ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี และก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาตั้งแต่วันนั้น แต่ก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าพ่อทำไม่ไม่กลับมา ซึ่งก็ได้โทรศัพท์ไปหา แต่ว่าติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งมาพบศพดังกล่าว

พ.ต.ท.ธงชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติทราบว่านายสวาท ดวงมณี อดีตนั้นเคยเป็นเสือชื่อดัง รุ่นเดียวกับ เสือเหิร เสือสด เสือสน ฯลฯ ร่วมก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่ง เสือสวาท ได้ก่อเหตุมาอย่างโชกโชนมากมายหลายคดี จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจับกุมและถูกคุมขังมาเป็นสิบปี และพ้นโทษมาเมื่อปี 41 ก่อนที่จะย้ายไปปักหลักมีครอบครัวใหม่อยู่ที่ ต.ตะเคียนราม อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ แต่ก็ยังแวะเวียนมาเยี่ยมลูกหลานอยู่เป็นประจำ

ส่วนสาเหตุการตายนั้นคาดว่าน่าจะมาจาก 3 ประเด็น คือ เรื่องชู้สาว ขัดผลประโยชน์ หรือไม่ก็เป็นแกนนำเสื้อแดง เนื่องจากผู้ตายเป็นคนเจ้าชู้มีเมียหลายคน และอีกเรื่องน่าจะเป็นเพราะผู้ตายมีที่ดินเป็นหมื่นไร่ เนื่องจากสมัยก่อนผู้ตายได้เป็นผู้บุกเบิกหักร้างถางพงผืนป่าขนาดใหญ่กับ พรรคพวกอีกหลายคน จึงทำให้มีหุ้นส่วนในที่ดินอย่างมากมายหลายแปลง ก่อนที่จะถูกจับติดคุกและพ้นโทษออกมา จึงมาทวงกรรมสิทธิ์กับเพื่อนๆที่ยังมีชีวิตอยู่และได้ครอบครองที่ดิน จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่ถูกลวงมาฆ่าทิ้ง และต้องเป็นคนรู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากรู้ดีว่า เสือสวาท เป็นคนหนังเหนียว จึงใช้ผ้าขาวม้ารัดคอจนขาดใจตายดังกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น